Tremolo คือเทคนิคในการเล่นเครื่องดนตรีที่ ทำการกดหรือดีดโน้ตเดียวหรือหลายโน้ตซ้ำๆ อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
คำนี้มาจากภาษาอิตาลี “tremare” (แปลว่า “สั่น”) ซึ่งสื่อถึงลักษณะสำคัญคือ การคงเสียงไว้ด้วยความเร็วสูง จนให้ความรู้สึกเหมือนสั่น
- ที่มา: จากภาษาอิตาลีที่แปลว่า “สั่น”
- จุดเด่น: ด้วยการเล่นที่รวดเร็วมาก ทำให้เสียงเกิดการสั่นไหวต่อเนื่อง
สัญลักษณ์ Tremolo และการเขียนบนโน้ตเพลง
สำหรับเปียโน Tremolo อาจหมายถึง การกดโน้ตตัวเดิมซ้ำๆ อย่างรวดเร็ว หรืออาจเป็นการ กดโน้ตอย่างรวดเร็วในลักษณะกระจาย เช่น ในรูปแบบอ็อกเทฟหรือคอร์ด ซึ่งมีหลายรูปแบบให้พบ
เทคนิคนี้ถูกนำมาใช้ในดนตรีหลากหลายแนว ตั้งแต่คลาสสิกไปจนถึงเพลงร่วมสมัย เพื่อ เติมความเร้าใจและความต่อเนื่องของเสียง ให้กับเพลง
ความแตกต่างระหว่าง Tremolo กับเทคนิคที่ใกล้เคียง
Trill (การสั่นเสียง)
Tremolo (Tremolo) คือการทำซ้ำโน้ตตัวเดิมหรือกลุ่มโน้ตที่กำหนดด้วยจังหวะเร็วๆ ส่วน Trill จะเน้นการสลับไปมาระหว่าง โน้ต 2 ตัวที่ติดกัน (ครึ่งเสียงหรือเต็มเสียง) อย่างรวดเร็ว
การกดซ้ำ (Repetition)
ความหมายตรงตัวก็คือการกดโน้ตตัวเดียวซ้ำๆ
Tremolo ก็ถือเป็นรูปแบบหนึ่งของ “การกดซ้ำ” แต่โดยทั่วไปแล้วจะเขียน ในค่าจังหวะที่สั้นมาก (เช่น 16th หรือ 32th) และมักพบถี่กว่าการกดซ้ำธรรมดา
วิธีเล่น Tremolo: ขั้นตอนสำหรับมือใหม่

1. ทำความเข้าใจกับค่าจังหวะให้ชัดเจน
Tremolo มักจะระบุด้วย ค่าจังหวะสั้นมาก เช่น 16th หรือสั้นยิ่งกว่า
ตัวอย่างเช่น หาก โน้ต 2 จังหวะ (minim) มีเส้นเฉียง 3 เส้นกำกับ หมายความว่าในช่วงเวลาของโน้ต 2 จังหวะนี้ เราต้อง กดซ้ำอย่างรวดเร็วในจังหวะที่ละเอียด
ควรตรวจสอบด้วยว่า Tremolo อยู่ในช่วงห่างเสียงแบบไหน (โน้ตเดี่ยว, อ็อกเทฟ, คอร์ด) และ กินเวลานานกี่จังหวะ (หรือกี่ห้อง)
2. เริ่มฝึกที่จังหวะช้า
ในระยะแรก ให้ฝึก กดซ้ำด้วยน้ำหนักและการสัมผัสคีย์ที่สม่ำเสมอ ในจังหวะช้าๆ อย่าเร่งให้เร็วเกินไป ความสม่ำเสมอของโน้ต เป็นสิ่งสำคัญ
เมื่อเริ่มชินมือ ให้ใช้เมโทรนอมกำหนดจังหวะ เริ่มอาจจะเป็น 4 จังหวะ (4th) หรือ 8 จังหวะ (8th) แล้วค่อยเพิ่มความเร็วไปที่ค่าจังหวะย่อยลง
3. อย่าเกร็งจนเกินไป
ถ้ากดแขนหรือข้อมือจนเกร็ง อาจทำให้เกิดผลเสีย ควรผ่อนคลายข้อมือและนิ้ว ให้เคลื่อนที่อย่างลื่นไหล
การใช้แต่นิ้วเดียวในการกดซ้ำจะทำให้เหนื่อยง่ายและไม่มีประสิทธิภาพ จึงมักสลับนิ้วหลายๆ นิ้ว
นอกจากนี้บางครั้ง อาจใช้มือซ้ายและขวาสลับกัน สำหรับการทำ Tremolo ขึ้นอยู่กับเพลงหรือท่อนที่เล่น
เทคนิคสำหรับระดับกลาง – สูง: เคล็ดลับเพิ่มความโดดเด่นให้ Tremolo

1. ใส่ไดนามิก (Dynamic) ให้หลากหลาย
แทนที่จะเล่นด้วยระดับเสียงคงที่ตลอด ควร ใช้การไล่ระดับเบา-ดัง (Crescendo) หรือดัง-เบา (Diminuendo) เพื่อเพิ่มมิติทางดนตรี
ถ้า Tremolo กินเนื้อที่หลายห้อง ลองเพิ่มเน้นหรือลากเสียงให้ดังขึ้นทีละน้อย ก็จะช่วยสร้างบรรยากาศได้ดี
2. แยกสัมผัสระหว่าง Legato และ Staccato
Tremolo โดยปกติมักเกี่ยวข้องกับเสียงที่สั้น กระชับ แต่ในบางกรณี อาจเป็น Tremolo นุ่มๆ ที่ใกล้เคียงการเล่นแบบ Legato
ควรพิจารณา รูปแบบสัมผัสที่เพลงต้องการ ตามสไตล์หรือบริบทของเพลง
3. วางแผนบทบาทของ Tremolo ในเพลง
คำนึงถึงไหลรวมของเพลง แล้วคิดว่าควรใช้ Tremolo อย่างไร
- ใช้ Tremolo สร้างความตื่นเต้นเร้าใจ มุ่งสู่จุดไคลแมกซ์ของเพลง
- ใช้ Tremolo นุ่มๆ สร้างบรรยากาศเงียบสงบหรือความฝัน
- ยืดเสียงประสาน (คอร์ด) ให้ก้องนานขึ้น และผสานกับการใช้เพดัลเพื่อให้เสียงอิ่มขึ้น
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
-1024x684.png)
Q1. เล่น Tremolo เร็วขึ้นไม่ได้ จังหวะเลยแกว่ง ควรทำอย่างไร?
สิ่งแรกคือฝึกในจังหวะช้าๆ บ่อยๆ จนโน้ตออกมาเท่ากันทุกตัว
พยายามผ่อนคลายข้อมือและปลายนิ้ว อย่าออกแรงเหวี่ยงมาก ใช้การเคลื่อนไหวเล็กๆ แต่มีประสิทธิภาพเพื่อลงคีย์
Q2. ควรใช้นิ้วไหนเล่น?
Tremolo โน้ตเดียว: บ่อยครั้งใช้นิ้วชี้ (2) กับนิ้วกลาง (3) หรือใช้นิ้วชี้ (2) กับนิ้วโป้ง (1) สลับกัน
Tremolo แบบอ็อกเทฟ: โดยทั่วไปใช้นิ้วโป้ง (1) กับนิ้วก้อย (5)
ไม่ว่าจะกรณีใด ควรหลีกเลี่ยงการใช้นิ้วเดิมซ้ำๆ เพื่อให้เล่นได้คล่องตัว
Q3. ใช้เพดัลอย่างไร?
ในเพลงยุคโรแมนติก (Romantic) มักจะ เหยียบเพดัลขวา (Damper Pedal) ค้างไว้เพื่อยืดเสียงและเพิ่มความกังวานระหว่าง Tremolo
อย่างไรก็ตาม ถ้าเหยียบนานเกินไป อาจทำให้เสียงขุ่นหรือเลอะเกินไป จึงต้องคอยปล่อยแล้วกดใหม่ตามจังหวะที่เหมาะสม
สรุป
Tremolo ถือเป็นเทคนิคหนึ่งที่ ช่วยเพิ่มความหลากหลายและความตื่นเต้น ให้กับการเล่นเปียโน ไม่ว่าจะในแง่ของการเพิ่มความหนาให้เสียง หรือเร่งความตึงเครียดในเพลง
นอกจากการกดโน้ตตัวเดิมซ้ำๆ ก็ยังมีรูปแบบ Tremolo อ็อกเทฟหรือคอร์ด ซึ่งถูกนำไปใช้ตั้งแต่งานดนตรีคลาสสิกจนถึงร่วมสมัย
หากฝึกฝนสม่ำเสมอ คุณจะสามารถทำให้ Tremolo ออกมาคมชัด สวยงาม และช่วยเสริมให้การแสดงเปียโนดูทรงพลังและลึกซึ้งยิ่งขึ้น ลองใช้เทคนิคต่างๆ ข้างต้น แล้วสนุกไปกับการพัฒนาเทคนิคนี้กันเถอะ!